การเดินทางของว่าที่ทีมที่รวยที่สุดในโลก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

การเดินทางของว่าที่ทีมที่รวยที่สุดในโลก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด


เป็นที่รู้กันดีสำหรับแฟนบอลอังกฤษว่า ในช่วง 1990s ให้หลังมานี้ลีกสูงสุดของประเทศที่เปลี่ยนชื่อจาก เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ และมาใช้ชื่อว่า พรีเมียร์ลีก เริ่มจะเข้าใกล้ความเป็นทุนนิยมที่สูงมากอย่างยิ่ง เพราะหากเราไล่ดูบรรดาทีมที่ถูกเทคโอเวอร์จากนายทุนต่างชาติ ทุกทีมที่มีนายทุนที่พร้อมจะจ่ายไม่อั้นนั้น มักจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น ดูตัวอย่างได้จาก 2 ทีม ที่พอมีนายทุนจากต่างชาติเงินหนาเข้ามาก็สามารถใขว่คว้าความสำเร็จได้ในเวลาอันใกล้อย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาเรียกได้ว่าแทบจะประสบความสำเร็จได้ในทันที

ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ในวันนี้เราจะได้เห็นข่าวการเฉลิมฉลองดีใจของเหล่าสาวก ทูน อาร์มี่ พากันมาแสดงความยินดีกับทีมรักที่หน้า สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค เพราะพวกเขาเองก็หวังว่าการที่ สโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ของพวกเขาถูกเทคโอเวอร์ จากกลุ่มนายทุนของประเทศซาอุดิอาระเบีย จะทำให้ทีมเล็ก ๆ ที่มีประวัติอันยาวนานนี้ ได้เข้าใกล้ความสำเร็จและขยับตัวเองขึ้นเป็นทีมใหญ่อย่างเดียวกับ 2 ทีมที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างด้านบน

สโมสรนิวคาสเซิ่ล อันเก่าแก่นั้นได้ก่อร่างสร้างตัวมาจากทีมคริกเก็ตท้องถิ่น 2 ทีม ที่มีจุดประสงค์ในการจะสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมาเหมือนกัน ช่วงระหว่างที่การแข่งขันคริกเก็ตนั้นปิดฤดูกาล ในตอนแรกมีทั้ง นิวคาสเซิ่ลเวสเอนด์ และ นิวคาสเซิ่ลอีสต์เอนด์ ก่อนที่ทั้งสองทีมนั้นจะมารวมตัวกันเพื่อยกระดับจากทีมสมัครเล่นเข้าสู่การเป็นทีมฟุตบอลอาชีพมากขึ้นในปี 1892 โดยได้เปลี่ยนเป็นใช้ชื่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

เดอะ แม็กพายน์ หรือชื่อที่คนไทยเรียกกันติดหูว่า สาลิกาดง นั้น ได้เดินทางไล่ล่าความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ในปี 1950 พวกเขาสามารถคว้าถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอย่าง เอฟ เอ คัพ มาครองได้ถึง 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี ก่อนที่เส้นกราฟของทีมจะร่วงลงไปต่ำสุดในยุค 1980s สาลิกาดง ที่มีแฟนบอลอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยนั้นต้องร่วงลงไปเล่นอยู่ในลีก ดิวิชั่น 2 ของประเทศอยู่นานพอสมควร ก่อนที่คิงเคฟ เควิน คีแกน ยอดกัปตันผู้เป็นเหมือนตำนานของทีมจะพา สาลิกาดง บินขึ้นมายังที่ ๆ พวกเขาควรอยู่

อย่างที่บอกว่าเส้นกราฟชีวิตของ สโมสรนิวคาสเซิ่ล นั้นขึ้น ๆ ลง ๆ และในปี 2000s ก็เหมือนจะเป็นปีที่เส้นกราฟพุ่งทะยานจนเกือบสูงสุดเช่นกัน เมื่อในทีมตอนนั้นมีกัปตันชื่อว่า อลัน เชียเรอร์ ประกอบกับดาวรุ่งอนาคตไกลอย่าง เครก เบลลามี, คีรอน ดายเออร์ และ โรลองต์ โรแบร์ ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์บ๊อบบี้ ร็อบสัน ในช่วงเวลานั้นพวกเขาสามารถกลับมายืนหยัดอยู่ในโซนหัวตารางของพรีเมียร์ลีก และได้ลงเล่นในรายการถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็พลาดท่าตกรอบ ก่อนที่จะไปได้รองแชมป์ถ้วยเล็กกว่าอย่าง ยูฟ่าคัพ อย่างน่าเสียดาย

และที่สุดคงจะเป็นปี 2007 สโมสรเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากบอร์ดบริหารของทีมได้ทำการขายสโมสรให้กับเจ้าของธุรกิจอุปกรณ์กีฬา และนิวคาสเซิ่ลในยุคของ แซม อัลลาไดซ์ นั้นก็ย่ำแย่เพียงพอที่จะทำให้ทีมจบอันดับที่ 18 ของตาราง เป็นหนทางที่ทำให้ทีมต้องตกชั้นลงไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ชิพ ทั้งการขายหุ้นทั้งการเปลี่ยนโค้ช ในตอนนี้สาลิกาดง ที่แฟนบอลรักเหมือนกับอยู่ในช่วงมรสุมของชีวิต แต่ไม่นานในปี 2009/10 ชายที่ชื่อว่า คริส ฮิวตัน ก็พาทีมกลับขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก จากผลงานการคว้า แชมป์เปี้ยนส์ชิพ อีกครั้ง


5 ปี ที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตะอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศ พวกเขาวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ในโซนตกชั้นแต่ก็รอดมาตลอดจนถึงปี 2015 บอร์ดบริหารได้ตัดสินใจแต่งตั้งกุนซือคนดังอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามาคุมทีมเพื่อหวังจะกู้วิกฤตการหนีตกชั้นในช่วง 10 นัดที่เหลือ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อให้คนอย่าง เบนิเตซ ก็ไม่สามารถทำให้ทีมรอดการตกชั้นมาได้ สุดท้ายก้ต้องลงกลับไปเล่นใน แชมป์เปี้ยนส์ชิพ เหมือนเดิม แต่ยังดีที่ว่าเพียงแค่ปีเดียว พวกเขาก็กลับขึ้นมาอีกครั้งในฐานะของแชมป์ ราวกับว่าทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้

แต่ในปี 2021 นี้ การรอคอยมาตลอดระยะเวลา 14 ปีของเหล่าสาวก ทูน อาร์มี่ ก็มาถึง เมื่อไมค์ แอชลี่ย์บอร์ดบริหารขี้เหนียว ตัดสินใจขายหุ้นให้กับกลุ่มทุนของซาอุดิอาระเบีย ที่มีเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซามาล เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ด้วยราคา 300 ล้านปอนด์ ดังนั้นภาพที่เห็นว่าเหล่าแฟนบอลต่างโห่ร้องยินดี นั้นคงจะไม่ใช่ภาพที่เกินจริงสักนิด เพราะการรอคอยที่ยาวนานของพวกเขาได้จบลงแล้ว

จริงอยู่ที่การเป็นทีมที่ตอนนี้อยู่ในสถานะร่ำรวยที่สุดในโลกของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะถูกคนปรามาสว่าอาจจะเป็นอีกทีมที่ใช้อำนาจของเงินตราไขว่คว้าความสำเร็จมาครอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ในยุคของทุนนิยมครอบงำพรีเมียร์ลีกขนาดนี้ คิดซะว่าการได้เห็นทีมที่มีประวัติอันยาวนานจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ก็น่าเป็นเรื่องยินดีและต้องคอยติดตามเส้นทางอนาคตของ เดอะ แม็กพายน์ ในตอนต่อไป



ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทุกวันนี้อีกหนึ่งความสุข คือ. . .